รักษารากฟันราคาเท่าไหร่ เจ็บไหม อาการฟันแบบไหนต้องไปรักษา?

เมื่อปัญหาในช่องปากและฟันเริ่มส่งสัญญาณเตือนรุนแรง เช่น อาการฟันผุลึกถึงราก ปวดฟันเรื้อรัง มีอาการอักเสบจนใช้ฟันได้ไม่เต็มที่ อาการเหล่านี้ต่างทำให้หลายคนเริ่มมองหาการรักษารากฟัน เพื่อให้ฟันสามารถใช้งานได้และอยู่กับเราได้นานยิ่งขึ้น แต่ก่อนจะตัดสินใจทำ หลายคนคงอดสงสัยไม่ได้ว่า การรักษารากฟันราคาเท่าไหร่? แพงไหม ตอนทำจะเจ็บมากไหม? และฟันแบบไหนที่ถึงเวลาต้องได้รับการรักษารากฟัน? คลินิกบริการทันตกรรมพิเศษ จุฬาฯ (CUSDC) พร้อมไขทุกคำถามในบทความนี้!

แต่ก่อนที่เราจะไปดูในส่วนของราคาในการรักษารากฟัน เราไปทำความเข้าใจกันก่อนดีกว่าว่า การรักษารากฟันนั้นคืออะไร แล้วฟันแบบไหนที่ควรรีบไปรักษา หากปล่อยไว้นานจะส่งผลเสียอะไรได้บ้าง

การรักษารากฟันคืออะไร?

การรักษารากฟัน (Root Canal Treatment) คือการรักษาฟันที่มีการอักเสบหรือติดเชื้อภายในโพรงประสาทฟัน ซึ่งเป็นเนื้อเยื่อเล็ก ๆ ที่อยู่ใจกลางของฟัน หากส่วนนี้เกิดการติดเชื้อหรือถูกทำลาย จะทำให้เกิดอาการปวด บวม หรือมีปัญหาสุขภาพในช่องปากอื่น ๆ ตามมา

ขั้นตอนการรักษารากฟันคือ การนำเนื้อเยื่อที่เสียหายและเชื้อโรคออกจากโพรงรากฟัน จากนั้นทำความสะอาดให้ปราศจากเชื้อ และอุดคลองรากฟันด้วยวัสดุเฉพาะเพื่อป้องกันการติดเชื้อซ้ำ สุดท้ายคือการซ่อมแซมด้วยการอุดหรือครอบ เพื่อให้ฟันกลับมาแข็งแรงและใช้งานได้ตามปกติ

ฟันแบบไหนที่ควรไปรักษารากฟัน

โดยอาการและลักษณะฟันที่ควรไปพบทันตแพทย์เพื่อตรวจและพิจารณาการรักษารากฟัน ได้แก่

• ฟันผุลึกจนถึงโพรงประสาท ลักษณะของฟันผุที่ลุกลามแบบนี้มักจะมีอาการปวดรุนแรง ถึงแม้จะกินยาแก้ปวดแล้วก็ไม่หาย หรือเสียวฟันเวลาทานของร้อน–เย็น
• มีอาการปวดฟันต่อเนื่อง รู้สึกเหมือนฟันปวดตุบ ๆ โดยไม่ต้องมีสิ่งกระตุ้น หรือ เวลาทานอาหารที่ร้อน-เย็น ในบางเคสอาจปวดมากจนรบกวนการนอนและการใช้ชีวิตประจำวัน
• ฟันมีหนองหรือเหงือกบวม อาจเห็นเป็นตุ่มหนองเล็ก ๆ บริเวณข้างเหงือก หรือเหงือกมีความบวมแดง กดแล้วเจ็บ ในบางเคสอาจตรวจดูอาการนี้ด้วยตัวเองลำบาก สามารถเข้ามาปรึกษาที่คลินิกบริการทันตกรรมพิเศษ จุฬาฯ (CUSDC) เพื่อความแม่นยำและรับการประเมินอาการจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
• ฟันแตกหรือร้าวลึกถึงโพรงประสาท อาการนี้มักเกิดจากอุบัติเหตุหรือการใช้ฟันกัดของแข็ง ทำให้เชื้อโรคเข้าไปในรากฟันได้
• ฟันเปลี่ยนเป็นสีคล้ำหรือเทา มักเกิดจากการที่ประสาทฟันตาย (Dead Pulp) อันเป็นสัญญาณว่าควรถึงเวลารักษารากฟัน
• ฟันได้รับการกระแทกอย่างรุนแรง แม้จะไม่ผุหรือแตก แต่การบาดเจ็บจากอุบัติเหตุต่าง ๆ อาจทำให้เส้นประสาทตายและจำเป็นต้องได้รับการรักษารากฟัน

ทำไมไม่ควรปล่อยฟันที่ปวดไว้

หลายคนมักคิดว่าอาการปวดฟันเป็นเรื่องเล็ก อดทนกินยาแก้ปวดไปก็หาย แต่ความจริงแล้ว การปล่อยฟันที่ปวดไว้นาน ๆ โดยไม่ได้รับการรักษา อาจทำให้จากปัญหาเล็ก ๆ แปรเปลี่ยนเป็นปัญหาลุกลามและยากต่อการแก้ไข จนส่งผลให้เกิดปัญหาฟันผุทะลุโพรงประสาทหรือฟันแตกได้ หากไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสม

ในเคสที่มีอาการติดเชื้อ เชื้อสามารถแพร่กระจายไปยังเหงือก กระดูกขากรรไกร หรือแม้แต่เข้าสู่กระแสเลือด ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพโดยรวม ไม่ใช่แค่อันตรายในช่องปาก หากปล่อยไว้นานจนรากฟันเสียหายเกินกว่าจะรักษาได้ ทางเลือกเดียวที่เหลือคือการถอนฟัน ซึ่งส่งผลต่อการบดเคี้ยวและรูปร่างของฟันทั้งแถว

รักษารากฟันราคาเท่าไหร่?

ค่าใช้จ่ายในการรักษารากฟันจะแตกต่างกัน โดยการรักษารากฟันราคาโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ 7,000-13,000 บาท ทั้งนี้ ค่าใช้จ่ายในการรักษารากฟันขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ตำแหน่งของฟัน ความซับซ้อนของเคส และรูปแบบการรักษา ซึ่งจำเป็นต้องให้ทันตแพทย์ประเมินก่อนเข้ารับการรักษา

ที่คลินิกบริการทันตกรรมพิเศษ จุฬาฯ (CUSDC) มีการให้บริการรักษารากฟันด้วยวิธีปกติ ซึ่งอาจมีการใช้กล้องจุลทรรศน์ร่วมด้วย

รักษารากฟันเจ็บไหม?

อีกคำถามที่หลายคนกังวล คือการรักษารากฟันจะเจ็บเหมือนถอนฟันไหม? แต่ความจริงแล้ว การรักษารากฟันสมัยใหม่แทบไม่เจ็บเลย เพราะทันตแพทย์จะมีการใช้ยาชาฉีดบริเวณรากฟันก่อนเริ่มการรักษา ทำให้คุณไม่รู้สึกปวด หรือรู้สึกถึงเพียงแรงกดหรือการสั่นจากเครื่องมือระหว่างรักษาเท่านั้น

หลังการรักษา ผู้ป่วยอาจมีอาการปวดหรือเสียวฟันเล็กน้อยในช่วง 1–2 วันแรก ซึ่งถือเป็นอาการปกติ สามารถบรรเทาได้ด้วยการทานยาแก้ปวดตามที่ทันตแพทย์แนะนำ

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการรักษารากฟัน

หลังรักษารากฟันต้องดูแลอย่างไร?

หลังการรักษารากฟัน ฟันอาจยังคงบอบบางอยู่ในช่วงแรก จึงควรระมัดระวังเป็นพิเศษ

• หลีกเลี่ยงของแข็งหรือเหนียว เช่น ลูกอม อาหารเหนียวหรือกรอบมาก เพราะอาจทำให้ฟันแตกหรือชิ้นส่วนวัสดุอุดฟันหลุด
• แปรงฟันให้สะอาดและใช้ไหมขัดฟัน เพื่อป้องกันฟันซี่อื่นเกิดฟันผุหรือเหงือกอักเสบ
• ติดตามอาการตามนัดอย่างสม่ำเสมอ เพราะทันตแพทย์จะเช็กว่าคลองรากฟันสะอาดดี และประเมินความแข็งแรงของฟันหลังได้รับการรักษา
• สังเกตอาการผิดปกติ เช่น ปวด บวม หรือมีหนองเกิดขึ้นหลังรับการรักษา หากพบควรแจ้งทันตแพทย์ทันที

รักษารากฟัน ต้องทำซ้ำกี่ครั้ง?

การรักษารากฟันอาจใช้เวลา 2-3 ครั้ง หรือในบางกรณีสามารถทำได้ใน 1 ครั้ง ทั้งนี้ขึ้นกับอยู่เคสของคนไข้

รากฟันที่รักษาแล้วอยู่ได้นานแค่ไหน?

รากฟันที่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องและได้รับการดูแลหลังรักษาเป็นอย่างดี สามารถอยู่กับคุณได้นานหลายปีจนถึงตลอดชีวิต

รักษารากฟันที่คลินิกบริการทันตกรรมพิเศษจุฬาฯ ดียังไง?

การเลือกคลินิกที่มีความเชี่ยวชาญและเทคโนโลยีทันสมัย เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการรักษารากฟันให้ปลอดภัยและได้ประสิทธิภาพดีที่สุด ที่คลินิกบริการทันตกรรมพิเศษ จุฬาฯ ในส่วนของสาขาการรักษารากฟัน มีทีมทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางจากจุฬาฯ กว่า 21 ท่าน ที่พร้อมให้การดูแลและรักษาปัญหาทุกปัญหารากฟัน

ที่นี่เราใช้เครื่องมือและเทคนิคที่ทันสมัย วัสดุอุดรากฟันคุณภาพสูงที่ช่วยเพิ่มความแม่นยำ ลดความเสี่ยง และทำให้การรักษาเป็นไปอย่างปลอดภัยและได้ผลลัพธ์การรักษาที่ดีที่สุด จึงมั่นใจได้ว่าฟันของคุณจะกลับมาแข็งแรงอีกครั้ง และที่สำคัญ การรักษารากฟันราคานี้ จะคุ้มค่าต่อผลลัพธ์ที่ได้อย่างแน่นอน

พิกัด

คลินิกบริการทันตกรรมพิเศษ จุฬาฯ (CUSDC) ตั้งอยู่ที่อาคารทันตรักษ์วิจัย คณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ถนนอังรีดูนังต์ สามารถเดินทางได้ง่าย ๆ ด้วยรถโดยสารสาธารณะ เช่น BTS, MRT, รถเมล์ และรถ ปอ.พ. นอกจากนี้ยังมี ที่จอดรถสำหรับรถยนต์และรถจักรยานยนต์ส่วนตัว ให้บริการ

Google Map: https://hny.link/cJ30dgL

สรุป

การรักษารากฟันเป็นวิธีสำคัญในการเก็บรักษาฟันแท้ให้สามารถใช้งานได้ยาวนาน ป้องกันการสูญเสียฟันและปัญหาสุขภาพช่องปาก ฟันที่ควรเข้ารับการรักษารากมักมีอาการ ปวด ฟันผุลึก ฟันแตก หรือบวม/มีหนอง การรักษารากฟันสมัยใหม่แทบไม่เจ็บ เพราะมีการใช้ยาชาและเทคโนโลยีทันสมัย ทำให้การรักษาแม่นยำและปลอดภัย

สำหรับใครที่กำลังมองหาคลินิกด้านการรักษารากฟันราคาคุ้มค่า ได้ฟันสวยและแข็งแรง คลินิกบริการทันตกรรมพิเศษ จุฬาฯ (CUSDC) มีทีมทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากจุฬาฯ พร้อมอุปกรณ์และเทคโนโลยีทันสมัยตามมาตรฐานระดับสูง มั่นใจได้เลยว่าการรักษาของคุณจะแม่นยำ ปลอดภัย และได้ฟันแข็งแรงพร้อมใช้งานแน่นอน

ข้อมูลโดย: ทญ. ปาจรีย์ กุลวัฒนาภรณ์ (สาขาวิชาทันตกรรมรากฟัน : Endodontics)